การนวดหินร้อนก็คือ
การใช้หินผสมผสานกับการนวด ซึ่งหินที่ใช้จะมีผิวที่เนียนเรียบและหินจะถูกทำให้เกิดความร้อน โดยเทอราปิส จะถือหินอยู่ในมือแล้วใช้หินนั้นนวด กดจุดไปตามส่วนต่างๆของร่างกายและใช้หินวางไว้ตามจุดต่างๆของร่างกาย เพื่อให้หินนั้นส่งผ่านความร้อนเข้าไปยังกล้ามเนื้อเพื่อกระตุ้นให้กล้ามเนื้อสามารถรักษาตัวเองได้เร็วขึ้นทั้งนี้หินยังสามารถช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือด ระบบน้ำเหลือง ให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น
เทคนิคการนวดหินร้อนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน เป็นการพัฒนามาจากการนวดแบบ Hahana Stone Massage เป็นการนวดแบบดั้งเดิมของชาวฮาวาย (Hawaiians)
การนวดหินร้อนของชาวฮาวายนั้นจมีเทคนิคหลักๆก็คือ
1. จะวางหินร้อนไปตามจุดต่างๆของร่างกายที่เกิดอาการเจ็บหรือเมื่อยล้า โดยการวางหินจะช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด และคลายความเมื่อลยล้าได้
2. ใช้ใบไม้ซึ่งจะมีคุณสมบัติในการบรรเทาอาการเจ็บปวดวางบนบริเวณที่เจ็บ แล้วใช้หินร้อนวางทับไปบนใบไม้ เพื่อให้ตัวยาในใบไม้ซึมเข้าไปสู่ร่างกาย
3.ใช้หินร้อนในการถูกนวดบนร่างกาย หลังจากที่นวดเสร็จสิ้นการนวดแบบดั้งเดิมของชาวฮาวาย (Hawaiians) เรียกว่า “a traditional Hawaiian Kahuna / Lomi-Lomi massage”
การนวดหินร้อน เป็นการนวดที่ผสมผสานเทคนิคการนวดปกติ แต่ว่า ใช้หินในการนวดแทน สิ่งที่ส่งเสริมให้การนวดมีประสิทธิภาพสูงที่สุด ก็คือ ความร้อนที่มาจากหินเพราะความร้อนสามารถช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายได้ดี รวมถึงความร้อนในหินยังช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือดและน้ำเหลืองได้ดีกว่าการนวดธรรมดา ทั้งนี้ความร้อนก้อนหินยังสามารถช่วยให้ขับพิษได้ด้วย และที่สำคัญการใช้ก้อนหินนวดยังให้ความรู้สึกสบายกว่าการใช้มือนวด
นอกจากความร้อนที่ช่วยให้การนวดมีประสิทธิภาพแล้ว การนวดหินร้อนยังมีความเชื่อในเรื่องของพลังธรรมชาติที่อยู่ในหิน เนื่องจากหินร้อนเกิดจากการที่แม็กม่าซึ่งไหลขึ้นมาเป็นลาวา มีความร้อนมากกว่า 1,000 องศา ที่ได้หลอมหินในชั้นบาซอลต์ ให้ไหลขึ้นมากลายเป็นลาวา และเมื่อภูเขาไฟซึ่งการอัดแน่นของพลังงานดังเช่นมีการระเบิดออกมานั้น ทำให้มีความเชื่อว่าก้อนหินลาวา หรือหินบาซอลต์นั้นมีพลังพิเศษ ซึ่งก้อนหินบาซอลต์เป็นตัวแทนของความกล้าหาณและความสุข จึงเชื่อว่าเมื่อนำก้อนหินมานวด หรือสัมผัสร่างกายจะทำให้มีพลังด้านบวกและก้อนหินยังสามารถขจัดพลังด้านลบออกจากร่างกายอีกด้วย